วันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2553

หยุดปั่นหุ้น ต้องตัดไฟแต่ต้นลม


“ตลาดหุ้นต้องมีความเป็นระเบียบร้อย ผู้ลงทุนได้รับความคุ้มครอง การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพ” นี่เป็นพันธกิจหลักของทุกผู้กำกับดูแลตลาดหุ้นทั่วโลก แต่ดูเหมือนว่าการทำราคาหลักทรัพย์ (Price manipulation) หรือ การ “ปั่นหุ้น” จะคอยเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินพันธกิจที่ว่านี้อยู่ร่ำไป
การเก็งกำไร กับ การปั่นหุ้น บางคนว่าสองคำนี้มีเส้นแบ่งระหว่างกันเพียงบางๆ ความจริง “การเก็งกำไร” เป็นสิ่งที่ผู้ลงทุนสามารถทำได้ เพราะใครๆ ก็ย่อมลงทุนเพื่อให้ได้กำไรทั้งนั้น การซื้อถูกแล้วขายแพงเป็นเรื่องปกติธรรมชาติ แต่หากมีการ “ทำ” ให้ราคาหุ้นถูกลงหรือแพงขึ้น นั่นต่างหากคือปัญหา เพราะนั่นคือการปั่นหุ้นที่เข้าข่ายผิดกฎหมายหลักทรัพย์
ผมได้พูดไว้ตั้งแต่วันแรกๆ ของการรับตำแหน่งเลขาธิการ ก.ล.ต. แล้วว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมให้ความสำคัญลำดับต้นๆ เพราะหากจัดการไม่ได้ จะทำให้ภาพลักษณ์ของตลาดทุนไทยเสียหาย และหากผู้ลงทุนไม่มีความเชื่อมั่นในการลงทุน การที่จะทำให้ตลาดทุนเติบโตต่อไปจะทำได้ยาก

นอกจากการไล่จับนักปั่นหุ้น ซึ่งถือว่าเป็นงานที่ไม่ง่ายแล้ว ผมก็ลองนึกถึงวิธีป้องปราม หรือ “ตัดไฟแต่ต้นลม” ด้วยการแก้ปัญหาเฉพาะจุด เพื่อยับยั้งไม่ให้กระบวนการสร้างราคาลุกลามโดยหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องแล้วหลายฝ่าย จนออกมาเป็นข้อสรุปว่า จำเป็นต้องอาศัยแรงหลักจาก

(1) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในการทำหน้าที่เป็น front line regulator หรือด่านแรกในการตรวจสอบและติดตามการซื้อขายหุ้นอย่างใกล้ชิด หากเห็นว่าหุ้นใดร้อนแรงผิดปกติก็จะร่วมมือกับ ก.ล.ต. และเรียกบริษัทสมาชิก (โบรกเกอร์) ที่เกี่ยวข้องมาหารือเพื่อควบคุมหรือลดวงเงินซื้อขายหุ้นตัวนั้นกับลูกค้าเป็นการชั่วคราว และเพื่อความโปร่งใสและให้มั่นใจว่าไม่มีการเลือกปฏิบัติ ก.ล.ต.ก็จะเข้าตรวจสอบตลาดอีกครั้ง และ
(2) บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เข้ามาเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการดูแลอย่างจริงจัง สำหรับมาตรการ ประกอบด้วย กำหนดให้ บล.มีความรับผิดชอบต่อการกระทำของพนักงานที่มีส่วนร่วมในการปั่นหุ้น โดย บล.จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบกำกับดูแลพนักงานที่ติดต่อกับผู้ลงทุนอย่างใกล้ชิด และหาก ก.ล.ต.พบว่าพนักงานของ บล.ใดมีส่วนร่วมในการปั่นหุ้น นอกจากจะลงโทษพนักงานแล้ว ก.ล.ต.จะพิจารณาลงโทษ บล.นั้นด้วย ซึ่งจะมีตั้งแต่การ sanction ในฐานะที่ บล.นั้นไม่จัดให้มีระบบในการกำกับดูแลการปฏิบัติงานของพนักงานที่รัดกุมเพียงพอ และอาจไปถึงขั้นกล่าวโทษ บล.นั้นด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น