วันพุธที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ตลาดทุนไทยต้องแข่งขันได้ในเวทีโลก

(การเชื่อมโยงตลาดทุนในภูมิภาค ASEAN ตอนที่ 1)
หลายท่านอาจสงสัยว่าทำไมตลาดทุนไทยจึงต้องแข่งขันกับตลาดทุนอื่นในโลก นั่นเป็นเพราะตลาดทุนเชื่อมโยงกันด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก ตลาดทุนจึงถึงกันโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะอยู่ที่ตรงไหน ตลาดทุนจึงแข่งกันทั่วโลก

ตลาดทุนไม่เหมือนกับตลาดการเงิน ไม่เหมือนการแข่งขันของธนาคารพาณิชย์ เพราะถ้าธนาคารพาณิชย์จะแข่งขันกันข้ามประเทศ เขาจะต้องมาตั้งสำนักงานหรืออย่างน้อยก็ต้องส่งคนหิ้วกระเป๋าเข้ามาติดต่อ มาทำธุรกิจกัน

ตัวที่ป้องกันตลาดบางตลาดอย่างตลาดทุนของไทยไม่ให้คนอื่นเข้ามาแข่งขันมากเกินไป ก็คือ การควบคุมปริวรรตเงินตรา (Exchange Control) ของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นกำแพงแก้ว ช่วยคุ้มครองปกป้องตลาดทุนของไทยอยู่ระดับหนึ่ง แต่กำแพงแก้วนี้ลดระดับลงไปเรื่อย ๆ กล่าวคือกฎระเบียบนี้เริ่มผ่อนคลายไปเรื่อย ๆ

ถ้าตลาดทุนของไทยไม่ปรับตัวตั้งแต่ตอนนี้ ผมว่าโอกาสที่จะเข้าไปแข่งขันในตลาดโลกก็จะยากขึ้น



การที่จะเป็นผู้ชนะและอยู่รอดจากการแข่งขันได้นั้น ต้องมองสองทาง ทางหนึ่งคือในฝั่งเงินไหลเข้า เราจะต้องทำตัวให้น่านิยม เนื่องจากว่าเราจะต้องไปแข่งขันกับคนที่เขามีเงิน กำเงินอยู่ทั่วโลก คู่แข่งของเราก็คือตลาดทุนทั่วโลกด้วยเช่นกัน

เพราะฉะนั้นวิธีการที่จะทำให้ตัวเองนั้นมีความน่านิยม นั่นคือ ต้องทำให้สินค้ามีมาตรฐานดี ต้องทำให้การดำเนินการในตลาดของเรามีกฎระเบียบที่ดี ซึ่งตรงนี้เราก็ทำของเรามาระดับหนึ่งแล้ว

ปัญหาของเราคืออยู่ตรงที่ว่า ต่อให้เราทำเต็มที่ยังไงก็ตาม ตลาดของไทยโดยตัวเองมันเล็ก เนื่องจากเราเป็นคนตัวเล็ก เราจะไปเบ่งตัวให้มันใหญ่ขึ้น ไปเท่ากับจีน เท่ากับอินเดีย มันก็เป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นเมื่อถึงจุดหนึ่ง เราจะพบว่าถ้าเราจะพยายามแข่งขันกับตลาดโลกด้วยลำพังตัวเองมันจะยาก

ดังนั้น วิธีการที่เราจะแข่งขันได้ง่ายขึ้นก็คือไปจับมือเป็นกลุ่มเป็นก้อน เวลานี้เป้าหมายตั้งต้นที่เป็นไปได้มากที่สุดคือจับมือเป็นกลุ่มกันภายในกลุ่ม ASEAN ด้วยเหตุนี้ ก.ล.ต. ใน ASEAN จึงได้มาร่วมกันทำแผนเชื่อมโยงตลาดทุนใน ASEAN และได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของ ASEAN เมื่อ พ.ศ. 2552 ที่พัทยา ซึ่งมีท่านรัฐมนตรีกรณ์ จาติกวณิช เป็นประธาน

ท่านผู้นำได้ประกาศนโยบายที่จะรวม ASEAN เข้ามา ภายในปี ค.ศ. 2015 เรียกว่าเป็น “เขตเศรษฐกิจ” ที่มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่อเนื่องกันมากขึ้น ซึ่งตรงนี้เป็นเป้าหมายที่เดิมกำหนดไว้สำหรับการค้าสินค้าและบริการ แต่ว่าดูไปแล้ว ถ้าเราจะมีการค้าสินค้าและบริการมากขึ้น ทั้งในแง่ของการเงินก็ดี ของตลาดทุนก็ดี มันจะเชื่อมโยงกันมากขึ้น

ณ เวลานี้ตลาดทุน ASEAN มีแผนชัดเจนที่จะเชื่อมโยง และเดินหน้าไปอย่างต่อเนื่องจากนี้ไปอีก 6-7 ปี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น